Winner Rabbit

Find a Friend Who Love Netherland Dwarf).

เครื่องอัดเม็ดอาหารสัตว์ขนาดเล็ก ทำเองได้เองที่บ้านหรือฟาร์มขนาดเล็ก

หากคุณเลี้ยงกระต่ายมากกว่า 10 ตัว และอยากจะปรุงอาหารเม็ดเพื่อใช้กับฟาร์มของตัวเอง ด้วยวัตถุประสงค์อย่างแรกคือป้องกันการฟุ้งกระจาย และสองลดปัญหาทิ้งก้านที่กระต่ายเขี่ยทิ้ง การเลือกซื้อ “เครื่องอัดเม็ดอาหารสัตว์” อาจจะตอบโจทย์ ผู้เลี้ยงกระต่ายที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญขึ้นมาระดับหนึ่ง บทความนี้จะแนะนำเครื่องอัดเม็ดอาหารสัตว์ขนาดเล็กสำหรับใช้ในบ้าน หรือฟาร์มขนาดเล็ก

เครื่องอัดเม็ดอาหารสัตว์ สำหรับกระต่าย

เครื่องอัดเม็ดอาหารสัตว์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เครื่องอัดเม็ดแบบหมุนด้วยมือ และเครื่องอัดเม็ดอาหารสัตว์ไฟฟ้า ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเลือกได้ตามจำนวนอาหารที่ต้องผลิตต่อสัปดาห์

  • เครื่องอัดเม็ดแบบหมุนด้วยมือ : หน้าตาคล้ายเครื่องบดเมล็ดกาแฟแบบหมุนมือ ใช้ขาตั้งยึดหนีบไว้กับโต๊ะ และเทวัตถุดิบทำอาหารสัตว์ไว้ด้านบน จากนั้นก็หมุนให้ฟันเฟืองอัดเม็ดอาหารสัตว์ลงมาด้านใบพัด ตามขนาดขอรู เช่น 3 มิลลิเมตร ที่เหมาะกับลูกกระต่าย และกระต่ายทั่วไป ราคาเริ่มต้น 700 บาท คลิกสั่งซื้อได้ที่นี่ SHOPEE | LAZADA
  • เครื่องอัดเม็ดแบบมอเตอร์ไฟฟ้า : มาพร้อมกับจานหมุน มอเตอร์ และแม่พิมพ์ที่สามารถเลือกเปลี่ยนได้ตั้งแต่ขนาด 1 – 5 มิลลิเมตร แล้วแต่รุ่น ซึ่งบางรุ่นสามารถตัดแยกขนาดของเม็ดอาหารที่หลุดมาตรฐานออกได้ ให้คุณได้อาหารเม็ดกระต่ายขนาดเท่าๆ กันทุกเม็ด เหมาะสำหรับฟาร์มที่เลี้ยงกระต่าย 20 ตัวขึ้นไป หรือฟาร์มที่ต้องการผลิตอาหารสัตว์เพื่อจำหน่าย ราคาเริ่มต้น 2,000 บาท คลิกสั่งซื้อได้ที่นี่ SHOPEE | LAZADA
ข้อดีของการใช้เครื่องอัดเม็ดอาหารสัตว์ขนาดเล็ก
ข้อดีของการใช้เครื่องอัดเม็ดอาหารสัตว์ขนาดเล็ก
ราคาเริ่มต้น 2,000 บาท สั่งซื้อได้ที่ SHOPEE | LAZADA

วัตถุดิบที่นำมาผลิตอาหารกระต่ายอัดเม็ดคืออะไรบ้าง?

การผลิตอาหารกระต่ายอัดเม็ดที่ดีนั้นต้องเน้นที่ ใยอาหาร (Fiber) ในระดับสูง เพื่อให้ระบบย่อยอาหารของกระต่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับลำไส้ วัตถุดิบหลักที่นำมาใช้ในการผลิตอาหารกระต่ายอัดเม็ดจะแบ่งออกเป็นกลุ่มหลัก ๆ ดังนี้

1. วัตถุดิบหลัก: แหล่งใยอาหาร (Fiber Source)

ใยอาหารถือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดในอาหารกระต่าย ควรมีสัดส่วนสูงถึง 18% ขึ้นไป ในสูตรอาหารเม็ด

  • หญ้าแห้ง (Hay): เป็นแหล่งใยอาหารหลักและดีที่สุด
    • หญ้าทิมโมธี (Timothy Hay): ได้รับความนิยมสูงสุด เหมาะสำหรับกระต่ายโตเต็มวัย เนื่องจากมีใยอาหารสูงและแคลเซียมต่ำ
    • หญ้าอัลฟาฟ่า (Alfalfa Hay): มีโปรตีนและแคลเซียมสูงกว่า เหมาะสำหรับกระต่ายเด็ก (อายุต่ำกว่า 6 เดือน), กระต่ายตั้งท้อง/ให้นมลูก หรือกระต่ายที่ต้องการเพิ่มน้ำหนัก
    • หญ้าขน, หญ้าแพงโกล่า หรือหญ้าแห้งชนิดอื่น ๆ: สามารถใช้เป็นส่วนผสมได้ แต่คุณค่าทางโภชนาการอาจแตกต่างกันไป

2. แหล่งพลังงาน (Energy Source)

วัตถุดิบเหล่านี้ให้พลังงานในการดำรงชีวิต แต่ควรใช้ในปริมาณที่จำกัด เนื่องจากกระต่ายไม่ต้องการแป้งและน้ำตาลสูง

  • รำข้าว/ปลายข้าว (Rice Bran / Broken Rice): ให้พลังงานและมีใยอาหารบางส่วน
  • มันสำปะหลังอัดเม็ด/มันเส้น (Cassava Pellets / Chips): ให้พลังงานสูง (ต้องใช้ในปริมาณจำกัดและมีการบดละเอียด)
  • ข้าวโพดบด (Ground Corn): เป็นแหล่งพลังงาน แต่ไม่ควรมีปริมาณมากเกินไป

3. แหล่งโปรตีน (Protein Source)

โปรตีนจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการบำรุงรักษาเนื้อเยื่อของร่างกาย (โดยทั่วไปอาหารกระต่ายโตเต็มวัยจะมีโปรตีนประมาณ 12-16%)

  • กากถั่วเหลือง (Soybean Meal): เป็นแหล่งโปรตีนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีคุณภาพสูง
  • กากเมล็ดทานตะวัน หรือกากเมล็ดพืชอื่น ๆ: สามารถใช้ได้ แต่ต้องมีการคำนวณความสมดุลของกรดอะมิโน

4. แหล่งแร่ธาตุและวิตามิน (Mineral & Vitamin Source)

วัตถุดิบเหล่านี้จะถูกเติมเข้าไปในปริมาณน้อยเพื่อความสมบูรณ์ของโภชนาการ

  • ไดแคลเซียมฟอสเฟต (Dicalcium Phosphate): แหล่งแคลเซียมและฟอสฟอรัส
  • เกลือ (Salt): จำเป็นต่อการรักษาสมดุลของร่างกาย
  • พรีมิกซ์วิตามินและแร่ธาตุ (Vitamin and Mineral Premix): เป็นผงรวมวิตามิน (เช่น วิตามิน A, D, E) และแร่ธาตุ (เช่น เหล็ก, สังกะสี, ทองแดง) ที่จำเป็นต่อกระต่ายโดยเฉพาะ

5. สารเติมแต่งอื่น ๆ (Additives)

  • สารยึดเกาะ/สารให้ความคงตัว (Binder): เช่น เบนโทไนต์ (Bentonite) หรือกากน้ำตาล (Molasses) ใช้เพื่อช่วยให้วัตถุดิบจับตัวกันได้ดีขึ้นและเม็ดอาหารแข็งแรง
  • ยีสต์ (Yeast): บางครั้งอาจมีการเติมยีสต์เพื่อช่วยส่งเสริมจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้

ตัวอย่างการผลิตสูตรอาหารกระต่ายเนเธอร์แลนด์ดวาล์ฟที่ไม่ได้เลี้ยงในห้องแอร์ ใช้โปรตีน 12-14%

สารอาหารปริมาณที่แนะนำ (ในอาหารเม็ด)หมายเหตุ
ใยอาหารหยาบ (Crude Fiber)18% – 25%ส่วนประกอบที่สำคัญที่สุด ต้องสูง!
โปรตีนรวม (Crude Protein)12% – 14%ควรควบคุมให้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อป้องกันโรคอ้วนและปัญหาไต
ไขมัน (Crude Fat)1% – 3%ควบคุมให้อยู่ในระดับต่ำ
แคลเซียม (Calcium)0.4% – 0.7%ควรควบคุมให้อยู่ในระดับต่ำ (เน้นหญ้าทิมโมธี)

วัตถุดิบที่ต้องไปหาซื้อ

  1. หญ้าทิมโมธีแห้ง (Timothy Hay): ควรซื้อแบบก้อนหรือแบบหยาบ (ไม่ได้บดผง) เพื่อนำมาบดเอง จะได้ใยอาหารที่มีคุณภาพ
  2. กากถั่วเหลือง (Soybean Meal): เลือกซื้อที่บดแล้ว
  3. รำข้าวสาลี (Wheat Bran) หรือ รำละเอียด (Rice Bran): มักมีขายตามร้านขายอาหารสัตว์
  4. กากน้ำตาล (Molasses): ช่วยให้เม็ดอาหารจับตัว และกระต่ายชอบรสชาติ
  5. ไดแคลเซียมฟอสเฟต (Dicalcium Phosphate): อาจต้องซื้อจากร้านขายเคมีภัณฑ์ หรือร้านขายวัตถุดิบอาหารสัตว์ใหญ่
  6. พรีมิกซ์วิตามินและแร่ธาตุ (Vitamin and Mineral Premix): ต้องซื้อสูตรที่ออกแบบมาสำหรับ สัตว์เล็ก หรือ กระต่ายโดยเฉพาะ (ห้ามใช้สูตรไก่หรือสุกร)
  7. เกลือ (Salt): เกลือแกงบริสุทธิ์ทั่วไป
ลำดับกลุ่มวัตถุดิบวัตถุดิบที่แนะนำให้จัดซื้อสัดส่วนโดยน้ำหนัก (โดยประมาณ)หน้าที่หลัก
1แหล่งใยอาหารหลัก (Fiber)หญ้าทิมโมธีแห้ง (Timothy Hay) หรือหญ้าโอ๊ต (Oat Hay)50 – 60%ให้ใยอาหารสูง, ลับฟัน, กระตุ้นการทำงานของลำไส้
2แหล่งพลังงาน/ไฟเบอร์รองรำข้าวสาลี (Wheat Bran) หรือ รำละเอียด (Rice Bran)15 – 20%ให้พลังงาน, ใยอาหารรอง, วิตามิน B
3แหล่งโปรตีน (Protein)กากถั่วเหลือง (Soybean Meal)10 – 15%เสริมโปรตีนและกรดอะมิโนที่จำเป็น
4แหล่งยึดเกาะกากน้ำตาล (Molasses) หรือ แป้งมันสำปะหลัง (Tapioca Starch)3 – 5%ช่วยในการอัดเม็ดและเพิ่มความน่ากิน (ใช้ Molasses จะดีกว่า)
5สารเสริม (Premix)พรีมิกซ์วิตามิน/แร่ธาตุ และ เกลือบริสุทธิ์1 – 3%เสริมวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นให้ครบถ้วน
6แหล่งแคลเซียม/ฟอสฟอรัสไดแคลเซียมฟอสเฟต (Dicalcium Phosphate)0.5 – 1.0%เสริมแคลเซียมและฟอสฟอรัส (ใช้ในปริมาณน้อย)

แม้คุณจะทำอาหารเม็ดเองแล้ว คุณยังต้องให้หญ้าแห้ง (Timothy Hay) แบบธรรมดาให้กระต่ายกินตลอดเวลา เพราะอาหารเม็ดเป็นเพียงส่วนเสริม (ประมาณ 5-10% ของอาหารทั้งหมดต่อวัน) ส่วนหญ้าแห้งเป็นอาหารหลัก (80% ของอาหารทั้งหมดต่อวัน)

ข้อดีของการใช้เครื่องอัดเม็ดอาหารสัตว์ขนาดเล็ก

ลดต้นทุนวัตถุดิบ: คุณสามารถใช้วัตถุดิบราคาถูกในท้องถิ่น (เช่น รำข้าว, กากถั่วเหลือง, มันสำปะหลัง) มาผสมและอัดเม็ดเองได้ ทำให้ต้นทุนต่อกิโลกรัมต่ำกว่าอาหารสำเร็จรูปในตลาดมาก

ควบคุมคุณภาพและโภชนาการ: คุณสามารถกำหนดสูตรอาหารที่เหมาะสมกับช่วงวัยและชนิดของสัตว์เลี้ยงได้อย่างแม่นยำ ปราศจากสารเติมแต่งที่ไม่จำเป็น

ลดการสูญเสียอาหาร: การอัดเป็นเม็ดช่วยให้สัตว์กินได้หมดจด ไม่ร่อน ไม่ฟุ้ง ลดการสูญเสียอาหารได้มาก

เพิ่มอายุการเก็บรักษา: อาหารเม็ดที่ผ่านการอัดและอบแห้งจะมีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานกว่าอาหารผงหรืออาหารหยาบ

อย่างไรก็ดีหากคุณต้องการผลิตอาหารสัตว์เพื่อจำหน่าย มีกฎหมาย พระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. 2558 ที่กำหนดว่าผู้ผลิตต้องขอใบอนุญาตผลิตอาหารสัตว์ (สำหรับจำหน่าย) ต้องแจ้งส่วนผสม จดทะเบียนอาหารสัตว์ เพื่อความปลอดภัยต่อสัตว์ของผู้บริโภค ซึ่งต้องใช้เครื่องอัดเม็ดอาหารสัตว์เชิงพาณิชย์ ราคา 16,000 บาท ขึ้นไป

Posted in